รายละเอียดงานตกแต่งบ้านที่มีมากหลายส่วนอาจทำให้หลายๆ ท่านลืมใส่ใจในส่วนของผ้าม่านไป แต่แท้ที่จริงแล้วผ้าม่านก้มีส่วนสำคัญไม่แพ้งานตกแต่งอื่นเลยค่ะ และวันนี้ Lee Curtain มีเคล็ดลับ 7 ประการที่ควรคำนึงถึงก่อนที่จะติดตั้งงานผ้าม่านมาฝากกัน
1. การวัดขนาดหน้าต่างที่ถูกต้อง
สิ่งแรกที่ควรทำคือการวัดขนาดหน้าต่าง โดยเริ่มจากความกว้างก่อน(จากซ้ายไปขวา) วัดจากขอบวงกบนอกด้านซ้าย ถึงขอบวงกบด้านขวา จากนั้นจึงวัดความสูง(จากบนลงล่าง) วัดจากขอบวงกบนอกด้านบนลงมาด้านล่าง หลังจากนั้นก็นำขนาดที่ได้ไปให้ร้านผ้าม่านตีราคาคร่าวๆ ได้เลยค่ะ (หากสั่งผ้าม่านจริงๆ ทางร้านจะมีทีมงานมาวัดพื้นที่และคำนวณขนาดที่เหมาะกับรูปแบบม่านอีกครั้งค่ะ)
2. ดูทิศทางแสงแดด
ทิศทางของแสงเป็นปัจจัยลำดับต้นๆ ในการติดผ้าม่านเช่นกัน หากแสงที่เข้ามาในห้องนอนโดยตรง ผ้าม่านที่เลือกควรเป็นผ้าที่ทำมาจาก Polyester หรือผ้าม่านที่มีตัวซับในอย่างประเภท Blackout ซึ่งกันแดดได้ 100% แต่ไม่ควรเลือกผ้าม่านที่มีส่วนผสมของ ผ้าฝ้าย ลินิน ซึ่งผ้าจำพวกนี้จะมีลักษณะเป็นผ้าบางจึงไม่เหมาะกับห้องนอนที่โดนแดดโดยตรง เป็นต้น
3. เลือกประเภทผ้าม่าน – ม่านแต่ละประเภทล้วนมีข้อจำกัดที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นม่านจีบ ม่านม้วน ม่านพับ มู่ลี่ไม้ ห้องแต่ละห้องก็มีคุณสมบัติที่ต่างกันเช่นกัน เช่น ห้องครัวต้องระวังเรื่องคราบเขม่าน้ำมัน หรือห้องน้ำต้องกันความชื้น กันเชื้อราได้ แล้วม่านชนิดไหนจะเหมาะกับห้องแบบใดบ้าง ลองศึกษาดูได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ (คลิ๊กที่นี่)
4. เลือกชนิดผ้า – ชนิดผ้าม่านมี 3 ประเภทหลักๆ ที่นิยมกันได้แก่ ผ้าโปร่ง, ผ้า Dimout และผ้า Blackout ซึ่งมีรายละเอียดแตกต่างกันดังนี้ค่ะ
- ม่านโปร่ง เป็นผ้าเนื้อบาง ส่วนใหญ่ทำจากผ้าโพลีอีสเตอร์ 100% มีคุณสมบัติไม่อมฝุ่นและยับยาก ช่วยกรองแสงแดดได้เล็กน้อย แสงที่ส่องผ่านม่านโปร่งจะดูนวลตา มักใช้ควบคู่กับเนื้อผ้าชนิดทึบแสง
- ผ้า Dimout เป็นเนื้อผ้ายอดนิยมในการใช้งาน เพราะมีคุณสมบัติในการกันแสงแดดได้มากถึง 80-90% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสีผ้า หากผ้าสีเข้มประสิทธิภาพในการกันแสงแดดจะมากกว่าผ้าสีอ่อน
- ผ้า Blackout ผ้าชนิดนี้กันแดดได้ 100% จึงเหมาะกับบริเวณที่โดนแสงแดดโดยตรง หรือห้องที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและมืดสนิท เช่น ห้องโฮมเธียเตอร์ ห้องนอน เป็นต้น
5. ระยะความยาวของผ้าม่าน – ความสวยงามของความยาวผ้าม่านจากพื้นถึงเพดานขอแนะนำ 3 แบบดังนี้
- แบบมาตรฐาน คือจะเผื่อเนื้อผ้าออกมาที่ความกว้างและความสูงด้านละ 15-20 เซนติเมตร
- แบบยาวถึงพื้น ระยะที่สวยงามของความยาวนี้คือ ควรมีระยะลอยจากพื้นประมาณ 1-2 เซนติเมตร
- แบบกองพื้น ม่านลักษณะนี้โดยส่วนมากจะนิยมในต่างประเทศ และจะเผื่อความยาวกองพื้นที่ 10-20 เซนติเมตร หรือแล้วแต่การออกแบบก็ได้เช่นกัน
6. ผ้าม่านช่วยให้ห้องดูสูงขึ้น – หากห้องมีขนาดเล็กและต้องการให้ห้องดูสูงขึ้น ควรติดตั้งราวในตำแหน่งที่สูงใกล้กับเพดานและติดผ้าม่านที่ยาวเกือบถึงพื้น เป็นเทคนิคหนึ่งที่ช่วยลดความอึดอัดของพื้นที่ด้วยการหลอกตาว่าห้องดูสูงขึ้นนั่นเอง
7. รางผ้าม่านหลากสไตล์ – แม้ว่าผ้าม่านจะเป็นตัวละครหลักที่กำหนดความสวยงามและป้องกันแสงภายนอก แต่รางม่านก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ดังนั้นจึงควรตรวจสอบว่าผ้าม่านมีน้ำหนักมาก จนต้องใช้รางที่แข็งแรงพิเศษหรือไม่ รวมถึงพิจารณาเลือกซื้อรางม่านที่ดีไซน์สวยงาม ก็ช่วยให้หน้าต่างดูมีสไตล์ขึ้นได้เช่นกัน
ผ่านไปแล้วกับเคล็ดลับ 7 อย่าง จะเห็นได้ว่างานผ้าม่านไม่ใช่แค่การเลือกสีผ้าและวัสดุเท่านั้น แต่ยังมีองค์ประกอบอื่นอีกมากมายที่ต้องคำนึงถึง หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเลือกปรึกษากับบริษัทผ้าม่านมืออาชีพก้ได้เช่นกันนะคะ ช่วยประหยัดเวลาและได้งานคุณภาพที่เรียบร้อยสวยงามด้วยค่ะ
หากท่านใดสนใจงานผ้าม่านและวอลเปเปอร์ติดต่อ Lee Curtain ได้เลยค่ะ Inbox facebook หรือ เยี่ยมชมโชว์รูมใกล้ BTS พญาไท โทร 02 612 0927 หรือ สุขุมวิท 31 (BTS อโศก) 02 662 1593 หรือตาม Follow เราได้ทาง Social Network ต่างๆ ตามลิ้งค์ด้านล่างเลยค่ะ
…………………………………………………………………………………………..
Copyright © 2016 Lee Curtain. All rights reserved.
Our mailing address is:
Lee Curtain
240/3-4 Phayathai road Bangkok, Bkk 10400 Thailand
E-mail : leecurtainshop@gmail.com
Tel. 02 612 0927, 02 245 4261 or visit us at showroom Phayathai (BTS exit 2)
Tel. 02 662 1593 or visit us at showroom Sukhumvit 31 (Asoke)
รายละเอียดงานตกแต่งบ้านที่มีมากหลายส่วนอาจทำให้หลายๆ ท่านลืมใส่ใจในส่วนของผ้าม่านไป แต่แท้ที่จริงแล้วผ้าม่านก้มีส่วนสำคัญไม่แพ้งานตกแต่งอื่นเลยค่ะ และวันนี้ Lee Curtain มีเคล็ดลับ 7 ประการที่ควรคำนึงถึงก่อนที่จะติดตั้งงานผ้าม่านมาฝากกัน 1. การวัดขนาดหน้าต่างที่ถูกต้อง สิ่งแรกที่ควรทำคือการวัดขนาดหน้าต่าง โดยเริ่มจากความกว้างก่อน(จากซ้ายไปขวา) วัดจากขอบวงกบนอกด้านซ้าย ถึงขอบวงกบด้านขวา จากนั้นจึงวัดความสูง(จากบนลงล่าง) วัดจากขอบวงกบนอกด้านบนลงมาด้านล่าง หลังจากนั้นก็นำขนาดที่ได้ไปให้ร้านผ้าม่านตีราคาคร่าวๆ ได้เลยค่ะ (หากสั่งผ้าม่านจริงๆ ทางร้านจะมีทีมงานมาวัดพื้นที่และคำนวณขนาดที่เหมาะกับรูปแบบม่านอีกครั้งค่ะ) 2. ดูทิศทางแสงแดด ทิศทางของแสงเป็นปัจจัยลำดับต้นๆ ในการติดผ้าม่านเช่นกัน หากแสงที่เข้ามาในห้องนอนโดยตรง ผ้าม่านที่เลือกควรเป็นผ้าที่ทำมาจาก Polyester หรือผ้าม่านที่มีตัวซับในอย่างประเภท Blackout ซึ่งกันแดดได้ 100% แต่ไม่ควรเลือกผ้าม่านที่มีส่วนผสมของ ผ้าฝ้าย ลินิน ซึ่งผ้าจำพวกนี้จะมีลักษณะเป็นผ้าบางจึงไม่เหมาะกับห้องนอนที่โดนแดดโดยตรง เป็นต้น 3. เลือกประเภทผ้าม่าน – ม่านแต่ละประเภทล้วนมีข้อจำกัดที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นม่านจีบ ม่านม้วน ม่านพับ มู่ลี่ไม้ ห้องแต่ละห้องก็มีคุณสมบัติที่ต่างกันเช่นกัน เช่น ห้องครัวต้องระวังเรื่องคราบเขม่าน้ำมัน หรือห้องน้ำต้องกันความชื้น กันเชื้อราได้ แล้วม่านชนิดไหนจะเหมาะกับห้องแบบใดบ้าง ลองศึกษาดูได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ (คลิ๊กที่นี่) 4. เลือกชนิดผ้า – ชนิดผ้าม่านมี 3 ประเภทหลักๆ ที่นิยมกันได้แก่ ผ้าโปร่ง, ผ้า Dimout และผ้า […]
อ่านเพิ่มเติมชวนคุณดับเบิ้ลความสุขเมื่ออยู่บ้านกับ 9 แอพพลิเคชั่นเด็ดที่ Lee Curtain คัดสรรมาแล้วสำหรับคนชอบอยู่บ้านโดยเฉพาะ จะมีแอพไหนน่าโหลดบ้างไปดูกันเลย ติดตามเรื่องราวและข่าวสารเรื่องบ้านต่อกันได้ที่ เพจเฟสบุ๊ค Lee Curtain หรือ www.leecurtain.com นะคะ แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้าค่ะ
อ่านเพิ่มเติม